ข่าวพรีเมียร์ลีก อังกฤษข่าวฟุตบอล

6เรื่องหลังเกมส์! อาร์เซน่อล คว่ำ เชลซี 2-1 ผงาดแชมป์ เอฟเอ คัพ 2019/20

88star ufa14k ufasexygame2 ufajaz
แชร์ไปให้เพื่อน

“ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายเอาชนะ เชลซี ไปได้แบบสุดสนุก 2-1 ในการแข่งขัน ฟุตบอล เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา และนี่คือ 6 เรื่องหลังเกมที่เกิดขึ้นในเกมนัดนี้มีอะไรบ้างไปดูกัน

 

1. โฮลดิ้ง น่าวิตกก่อนจะยกระดับ

 

Rob Holding

 

มิเคล อาร์เตต้า จับเอา ร็อบ โฮลดิ้ง ออกสตาร์ทเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงในบทบาทเซ็นเตอร์แบ็คฝั่งขวาเคียงข้างกับ ดาวิด ลุยซ์ และ คีแรน เทียร์นีย์ และปราการหลังวัย 24 อดีตเด็กปั้นจาก โบลตัน ก็สร้างความหวาดเสียวให้กับสาวก เดอะกันเนอร์ส ตั้งแต่ต้นเกมเมื่อออกอาการลุกลี้ลุลนยามถูกบีบพื้นที่ ไปจนถึงการยืนตำแหน่งอันมีส่วนในจังหวะที่ทีมเสียประตู

แต่ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านั้น บอลเซ็ตจากแดนหลังที่ โฮลดิ้ง มีส่วนร่วมค่อยๆ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป การเคลื่อนที่ประคองเกมของวิงแบ็ครวมไปถึงมิดฟิลด์แดนกลางทำให้การตั้งเกมของ ปืนโต หลุดจากการเพรสซิงของ สิงห์บลู ในที่สุด ก่อนที่พวกเขาจะเป็นฝ่ายเซ็ตโมเมนตัมของเกมในเวลาต่อมา

 

2. เซบายอส-ชาก้า ปิดทองหลังพระ

 

FBL-ENG-FACUP-ARSENAL-CHELSEA

 

อาร์เซนอล ภายใต้การคุมทัพของ มิเคล อาร์เตต้า กลายเป็นทีมที่มีอาวุธเด็ดจากการเคาะบอลที่แดนหลังก่อนวางแนวลึกให้คีย์แมนตัวจี๊ดที่แดนหน้าอย่าง นิโกลาส์ เปเป้, อเล็กซองดร์ ลากาเซ็ตต์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง วิ่งแข่งกับกองหลังคู่ต่อสู้ ไปสู่เขตโทษฝั่งตรงข้ามเพียงชั่วอึดใจ

ด้วยจุดแข็งดังกล่าวแม้จะทำให้ 2 คู่มิดฟิลด์ของ ไอ้ปืนใหญ่ ลดความหวือหวาลงไปบ้างเมื่อทีมไม่ได้เป็นฝ่ายครอบครองบอลมากนัก แต่การได้คู่นักเตะประเภทดับเครื่องชนอย่าง กรานิท ชาก้า และกองกลางมันสมองอย่าง ดานี เซบายอส ก็ดูจะกลายเป็นส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบกับรูปแบบการเล่นดังกล่าว

ชาก้า รับบทบาทสกรีนเกมรุกของ สิงห์บลู อย่างที่ควรจะเป็น ขณะที่ เซบายอส แม้จะเป็นแข้งแนวรุกโดยธรรมชาติแต่เจ้าตัวก็ยังสามารถรักษาตำแหน่งในการยืนช่วยเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งทีเด็ดในการวางบอลยังเป็นส่วนสำคัญทั้งต่อการเซ็ตบอลจากแดนหลัง รวมไปถึงการเปิดฉากโจมตีอย่างรวดเร็วจากบอลแนวลึกอีกด้วย

 

3. อาร์เซน่อล คงได้คำตอบแล้วว่าควรต่อสัญญา โอบาเมยอง ออกไปหรือไม่

 

Pierre-Emerick Aubameyang, Mikel Arteta

โอบาเมยอง ยังสามารถรักษามาตรฐานอันยอดเยี่ยมที่เจ้าตัวทำได้มาตลอดทั้งฤดูกาลนี้โดยนอกจากการวิ่งแบบไดเร็กต์เพื่อรับบอลจากแนวลึกสามารถสร้างปัญหาให้กับ เดอะบลูส์ ได้อย่างต่อเนื่องแล้ว เจ้าตัวยังเป็นคนเรียกจุดโทษก่อนลุกขึ้นมาสังหารด้วยตนเองเป็นประตูตีเสมอ ก่อนที่จะโชว์ความเยือกเย็นพลิกบอลหนีกองหลังของ เชลซี ในกรอบเขตโทษ ตามด้วยการชิพบอลอย่างเหนือชั้นผ่านมือ วิลลี กาบาเยโร เป็นประตูชัยให้กับทีมจนทำให้เราแทบจะจินตนาการถึง อาร์เซนอล ที่ขาดดาวเตะทีมชาติ กาบอง รายนี้ได้เลย

4. สิงห์บลูส์ แก้เพรสซิงสูงไม่ได้

 

Alexandre Lacazette, Kurt Zouma

 

เกมนี้มีเพียงช่วงต้นเกมเท่านั้นที่ทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด สามารถเอาตัวรอดจากการไล่ประกบสูงของนักเตะ อาร์เซนอล จนส่งผลให้่ได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 5 ของการแข่งขัน

แต่ทว่าหลังจากนั้นเหล่าบรรดาแข้งสิงห์บลู ดูจะมีปัญหาอย่างมากในการขึ้นเกม เพราะพวกถูกไล่บีบตั้งแต่หน้าประตูตัวเองจนทำให้ต่อบอลขึ้นไปไม่ได้ ทำได้เพียงส่งคืนหลังเคาะบอลไปมาหน้าเขตโทษของตัวเองและก็เสียบอลในที่สุด กองกลางในวันนี้ก็แทบต่อบอลเชื่อมเกมไม่ได้อย่างถนัดนักเพราะถูกตามติดแบบแมนทูแมนตลอดทั้งเกม แถมลูกวางยาวจากแดนหลังในวันนี้ก็ทำได้ไม่ดีจนทีมแทบจะหาจังหวะลุ้นประตูแบบจะจะไม่ได้เลยโดยเฉพาะในช่วงครึ่งเวลาหลัง

 

5. ขาด พูลิซิช เหมือนขาดใจ

 

Christian Pulisic

 

หากใครได้ติดตามชม เชลซี ในช่วงหลัง จะรู้ว่าหนึ่งในที่เด็ดของพวกเขา ณ เวลานี้คือการกระชากลากเลื้อยของ “กัปตันอเมริกา” คริสเตียน พูลิซิช ที่แทบจะแบกเกมรุกของทีมเอาไว้บนบ่า เช่นเดียวกับในนัดนี้ที่แข้งเลือดมะกันทำผลงานได้โดดเด่นกับทีมแถมยังเป็นคนที่ยิงประตูขึ้นนำให้กับทีมอีกด้วย น่าเสียดายที่จังหวะหลุดเดี่ยวดันมาเจ็บไปเสียก่อน มิฉนั้นคงทำได้ดีกว่านี้เป็นแน่ แต่ที่แย่กว่านั้นคือ หลังจากเจ้าตัวถูกเปลี่ยนตัวออกไป เกมรุกของ สิงห์บลู ดูตื้อลงไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะทั้ง เมสัน เมานท์ เปโดร หรือ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา ก็ยังไม่สามารถทดแทนการหายไปของเขาคนนี้ได้ จนทำให้สุดท้ายทีมก็พลาดท่าพ่ายแพ้ไปในที่สุด

6. แฟนสิงห์ แอบมีเคืองการตัดสิน

 

 

เกมนี้นอกจาก แอนโธนี เทย์เลอร์ จะให้ 1 จุดโทษกับ อาร์เซนอล แล้ว ใบแดงของ มาเตโอ โควาชิช ก็อาจจะดูค้านสายตาแฟน ๆ สิงโตน้ำเงินคราม อยู่นิด ๆ เช่นกัน เพราะจังหวะนั้นหากดูจากภาพช้า กองกลางชาวโครเอเชีย ก็ดูเหมือนสะกัดโดนบอล แต่สุดท้ายผู้ตัดสินกลับชูใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทำให้ เชลซี เสียเปรียบในเรื่องของตัวผู้เล่นทันที แถมยังมีจังหวะที่ มาร์ติเนซ ออกมารับบอลนอกกรอบเขตโทษชนิดจงใจแบบสุด ๆ แต่จารย์กลับมองไม่เห็นซะอย่างงั้น อีกทั้งก็ไม่มีการเช็ค VAR ดูย้อนหลังอีกต่างหาก ทั้งที่จังหวะนี้สามารถให้เป็นใบแดงกับผู้รักษาประตูได้เลยด้วยซ้ำ !

มุมแสดงทรรศนะ