11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์พรีเมียร์ลีก นัดที่ 30 แข้งผีเรือใบนำทัพแดนกลาง

กลับมาให้แฟน ๆ ได้ชมอีกครั้งสำหรับทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำสัปดาห์ โดยสัปดาห์แรกของการรีสตาร์ท จะมีผู้เล่นคนไหนทำผลงานได้เข้าตาบ้าง ไปชมกันได้เลย

    ผู้รักษาประตู : อลีสซง เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล)

โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน และ ริชาร์ลิซอน เกือบทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องชอกช้ำ ซึ่งผู้ที่ปกป้องหน้าปากประตูของ ‘หงส์แดง’ ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ทำหน้าที่ปฏิเสธลูกยิงจากสองคนนั้นได้อย่างยอดเยี่ยม

นายด่าน 116 คนที่ลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก อย่างน้อย 50 นัด อลีสซง มีสถิติเก็บคลีนชีตดีที่สุดที่อัตรา 54% โดยทำได้ 32 นัดจาก 59 เกม

 

    กองหลัง : เคร็ก ดอว์สัน (วัตฟอร์ด)

ด้วยวัย 30 ปี ดอว์สัน ซึ่งแจ้งเกิดกับ เวสต์บรอมวิช เมื่อหลายปีก่อน ยังยืนหยัดลงเล่นบนเวทีสูงสุดได้อย่างดีเยี่ยม โดยประตูสำคัญที่ วิคาเรจ โร้ด เกมล่าสุด ทำให้ ‘แตนอาละวาด’ รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ได้อย่างฉิวเฉียด

 

    กองหลัง : วิลลี่ โบลี่ (วูล์ฟส์)

ก่อนหน้านี้ วิลลี่ โบลี่ เจอปัญหาบาดเจ็บ และกลับมาช่วยทีมได้ในช่วงก่อนล็อคดาวน์

เกมที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม โบลี่ เคลียร์บอลได้ 5 ครั้งและตัดบอลได้อีก 3 หน ซึ่งไม่มีผู้เล่นวูล์ฟส์คนไหนทำได้มากกว่านี้อีกแล้ว นอกจากนี้ 6 เกมหลังสุดที่เจ้าตัวลงเล่นเป็นตัวจริงหลังฟื้นจากอาการบาดเจ็บ วูล์ฟส์ เก็บคลีนชีตได้ถึง 5 เกม!

 

    กองหลัง : เมสัน โฮลเกต (เอฟเวอร์ตัน)

ดาวเตะสัญชาติอังกฤษวัย 23 ปี ทำผลงานได้ดีสุดๆ ในศึก เมอร์ซี่ย์ ไซด์ ดาร์บี้ โดยเคลียร์บอลช่วยทีมได้ถึง 8 ครั้ง ตัดบอลได้4 และตามเข้าสกัดอีก 2 หน

 

    กองกลาง : แม็ตต์ ริทชี่ (นิวคาสเซิล)

ทำผลงานทางริมเส้นฝั่งซ้ายได้อย่างโดดเด่น จัดให้ทั้งประตูและแอสซิสต์ ซึ่งนี่คือการมีส่วนร่วมกับประตูให้กับ นิวคาสเซิล ครั้งแรกในซีซั่นนี้ของ ริทชี่ เลยทีเดียว

 

    กองกลาง : ฟิล โฟเดน (แมนฯ ซิตี้)

ดาวเตะดีกรีทีมชาติอังกฤษชุดเล็กวัย 20 ปี น่าจะเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดของ ดาบิด ซิลบา ที่เตรียมตัวอำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้

ในวันที่ไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ โฟเดน ก้าวขึ้นมาทำผลงานได้โดดเด่น ทำสองประตูในเกมกับ เบิร์นลี่ย์ แถมเกมตกค้างกับ อาร์เซน่อล ก็ยังยิงได้อีกด้วย

ตลอดการลงสนามทุกรายการที่เป็นตัวจริงของ โฟเดน ในฤดูกาลนี้ บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เขาทำได้ 4 ประตูและแอสซิสต์ได้อีก 7 ครั้ง

 

    กองกลาง : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้)

แม้จะได้ลงเป็นตัวจริงแค่นัดเดียว ส่วนเกมถล่ม เบิร์นลี่ย์ เป็นแค่ตัวสำรอง แต่ผลงานของ เดอ บรอยน์ ก็ยืนยันชัดเจนว่านี่คือดาวเตะคนสำคัญที่สุดของ แมนฯ ซิตี้

เดอ บรอยน์ มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้มากที่สุดเหนือกว่าใคร ๆ โดยทำได้ 9 ประตู และผ่านบอลให้เพื่อนยิงอีก 16 ครั้ง

 

    กองกลาง : บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แมนฯ ยูไนเต็ด)

เป็นคนที่คอยปลุกเกมของ ยูไนเต็ด ให้มีชีวิตชีวา และยิ่งเมื่อทีมได้ ปอล ป็อกบา กลับมาแล้ว ทำให้เขามีอิสระมากขึ้น

นับตั้งแต่ ฟิล โจนส์ ทำสถิติลงเล่น 10 เกมแรกให้ ‘ปีศาจแดง’ ด้วยการไม่แพ้ใคร เมื่อปี 2011 ถึงตอนนี้ก็มี บรูโน่ นี่แหละที่ทำได้เหมือนกัน

 

    กองกลาง : อดาม่า ตราโอเร่ (วูล์ฟส์)

ตลอด 1 ชั่วโมง วูล์ฟส์ ดูเหมือนไม่มีไอเดียที่จะเจาะประตู เวสต์แฮม มากเท่าไหร่แต่เมื่อ นูโน่ ซานโต้ จัดการส่ง อดาม่า ตราโอเร่ ลงมา มันคือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเกม

ปีกร่างบึ้กใช้เวลาแค่ 10 นาทีในสนาม จัดการเสกประตูด้วยลูกครอสจากริมเส้นให้ ราอูล ฮิเมเนซ ขึ้นโขกออกนำก่อนที่จะใช้ความแข็งแกร่งทำเกมแล้วผ่านบอลให้ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ หลุดเข้าไปเปิดให้ เปโดร เนโต้ ซัดเต็มข้อปิดกล่อง ‘ขุนค้อน’

 

    กองหน้า : แดนนี่ อิงส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)

ทำประตูต่อเนื่องและยิงเป็นว่าเล่น แดนนี่ อิงส์ รักษามาตรฐานของตัวเองได้ดีมากๆ ในซีซั่นนี้ โดยเขาซัดไปแล้ว 16 ประตู ซึ่งเป็นนักเตะนักบุญคนแรกที่ทำได้เกิน 15 ประตูนับตั้งแต่ที่ เจมส์ บีทตี้ ทำได้เมื่อฤดูกาล 2002/03 (23 ประตู)

 

    กองหน้า : อแล็ง แซงต์-แม็กซิแม็ง (นิวคาสเซิล)    

อาจไม่ใช่กองหน้าตัวเป้าธรรมชาติ แต่ อแล็ง แซงต์-แม็กซิแม็งคือตัวรุกริมเส้นที่มีบทบาทกับ นิวคาสเซิล มากเหลือเกินในเกมล่าสุด

ความเร็ว, ความแข็งแกร่งบวกด้วยความขยันคือจุดเล่นงานคู่แข่ง อีกทั้งยังเป็นผู้ยิงประตูเปิดกล่องให้เจ้าถิ่นเดินหน้าปูพรมถล่ม ทีมที่มีเกมรับอันดับสองของลีก