ข่าวฟุตบอลข่าวฟุตบอลอื่นๆ

รุ่นพี่โคเวนทรี: ย้อนรอย “ม้ามืด” ศึกเอฟเอคัพที่ทำผลงานได้น่าจดจำที่สุด

88star ufasexygame2 ufajaz
แชร์ไปให้เพื่อน

ถึงแม้จะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป แต่เชื่อเหลือเกินว่าหลาย ๆ คนเอาใจช่วยโคเวนทรีในศึกเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมากันอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีมาตลอดทุกรอบ แถมยังสามารถไล่ตีเสมอทีมใหญ่กว่าอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ภายในไม่ถึง 30 นาที ทั้งที่โดนนำไปก่อน 3-0 และเกือบจะเอาชนะในช่วงวินาทีสุดท้ายด้วยประตูล้ำหน้า ด้วยความที่ฟุตบอลยุคใหม่เริ่มออกห่างจากการเป็นกีฬาของชนชั้นกลาง ก้าวเข้าสู่ความเป็นธุรกิจมากขึ้นเท่าไหร่ เรายิ่งเห็นทีมเล็กโชว์ฟอร์มได้ไกลขนาดนี้ยากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้ เราจึงขอเฉลิมฉลองความพ่ายแพ้ที่น่าชื่นชมของโคเวนทรี ด้วยการย้อนกลับไปดูทีมเล็ก หัวใจใหญ่ ที่สามารถทำผลงานได้น่าชื่นชมที่สุดในศึกเอฟเอคัพกัน

ในปีนี้ จะมีทีมเล็กทีมไหนโชว์ฟอร์มผิดคาดแฟนบอล ผิดโผบ่อนพนันกันบ้างหรือเปล่า มาลองเดิมพันกันได้ที่เว็บไซต์ Alpha88online ไม่ว่าจะเป็นการพนันกีฬาหรือ a88สล็อต ก็สนุกกันได้ทั้งหมด!

กริมสบี ทาวน์ (ฟุตบอลลีกทู) 2022/2023

ใครที่เปิดรายชื่อ 8 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกเอฟเอคัพ ฤดูกาล 2022/2023 คงจะตกใจไปตาม ๆ กันที่ได้เห็นทีมระดับน้องอย่างกริมสบี ทาวน์ มีชื่อร่วมถ้วยกับทีมยักษ์ใหญ่ของเกาะอังกฤษ โดยกริมสบี ทาวน์ เริ่มแข่งขันเอฟเอคัพในฤดูกาลนั้นตั้งแต่รอบแรก ด้วยการเอาชนะพลิมัธ อาร์ไกล์ 5-1 ก่อนจะคว้าชัยที่เมืองเคมบริดจ์ ด้วยการเอาชนะเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด 2-1 ในรอบสอง สำหรับรอบที่สาม พวกเขาเฉือนเอาชนะเบอร์ตันไป 1-0 ก่อนจะมายันเสมอทีมระดับเเชมเปี้ยนชิพ ลูตัน ทาวน์ ได้ 2-2 ต้องรีเพลย์

ในรอบรีเพลย์ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า ทีมที่มีแววจะได้เลื่อนชั้นไปเล่นพรีเมียร์ลีกอย่างลูตัน น่าจะสามารถเอาชนะกริมสบีไปได้อย่างไม่ลำบากมาก แต่พวกเขาก็ต้องคิดผิด เมื่อกริมสบีถล่มเอาชนะไป 3-0 เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายหรือรอบที่ห้าไปได้อย่างพลิกล็อก ในรอบที่ห้า พวกเขาต้องเจอกับทีมพรีเมียร์ลีกที่กำลังจะตกชั้น เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งกริมสบีก็ฉวยโอกาสเอาชนะได้ถึงถิ่นเซนต์แมรี ด้วยสกอร์ 2-1 ก่อนจะถูกจับคู่ไปเยือนไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ซึ่งก็เป็นจุดจบของการเดินทาง เพราะพวกเขาโดนถลุงไปถึง 5-0

อย่างไรเสีย แฟน ๆ กริมสบี ทาวน์ ต่างก็ออกมาเฉลิมฉลองความสำเร็จในครั้งนี้ของทีมกันอย่างล้นหลาม พวกเขาเป็นทีมฟุตบอลจากลีกฟุตบอลระดับที่สี่ของอังกฤษทีมแรก ที่สามารถผ่านเข้ามาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกเอฟเอคัพ นับตั้งแต่เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด ทำได้เมื่อกว่า 33 ปีก่อนในปี 1990

เลสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 2020/2021

หลายคนมองว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015/2016 คงจะเป็นนิยายเรื่องแรกและเรื่องเดียวของทีม “จิ้งจอกสยาม” ในฟุตบอลสมัยปัจจุบัน และเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น แต่เลสเตอร์ก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า พวกเขาไม่ได้เป็นแค่ทีมกลางตารางลุ้นบอลยุโรปไปวัน ๆ แต่สามารถชิงถ้วยรางวัลกับทีมระดับยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกได้เหมือนกัน และนี่ก็เป็นสิ่งที่เด่นชัดจากศึกเอฟเอคัพ ฤดูกาล 2020/2021

ในฐานะทีมจากพรีเมียร์ลีก พวกเขาเข้ารอบ 3 เป็นรอบแรก และสามารถถล่มเอาชนะสโต๊คซิตี้ไป 4-0 ก่อนจะกำราบเบรนต์ฟอร์ด 3-1 ในรอบที่ 4 ก่อนจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของคู่แข่งร่วมพรีเมียร์ลีก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน และเฉือนเอาชนะไป 1–0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เลสเตอร์โชว์ความเหนือด้วยการตอกหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไป 3-1 ก่อนจะเดินทางไปเวมบลีย์เพื่อเฉือนชนะเซาธ์แฮมป์ตันอีก 1-0 เพื่อเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพครั้งแรกในรอบเกิน 50 ปี

คู่แข่งของพวกเขาคือเชลซี ทีมที่เข้าชิงชนะเลิศมาแล้ว 2 ครั้งติด ๆ และกำลังจะลงแข่งขันในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่เลสเตอร์ก็ไม่กลัว บุกเข้าใส่และตั้งรับอย่างแน่นหนา จนมาทำประตูชัยได้จากยูริ ติลิม็องส์ ในนาทีที่ 63 คว้าแชมป์เป็นสมัยแรก ก่อนจะคว้าถ้วยการกุศล คอมมิวนิตี้ชิลด์ มาได้อีกหนึ่งรายการช่วงต้นฤดูกาลถัดไป

มารีน (ลีกท้องถิ่น) 2020/2021

หนึ่งในเกมฟุตบอลที่น่าอัศจรรย์และชื่นมื่นที่สุดเกมหนึ่งเท่าที่ศึกเอฟเอคัพเคยประสบพบเจอมา ก็คือการที่ทีมจากลีกฟุตบอลระดับ 8 ของประเทศอังกฤษ ได้ผ่านเข้ามาถึงรอบสามของถ้วยเอฟเอคัพ และได้จับคู่เจอกับทีมจากลีกสูงสุดอย่างท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส จนกลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจในฟุตบอลยุคโควิด-19 เรื่องหนึ่ง

ในฐานะทีมจากลีกฟุตบอลอันดับ 8 ของประเทศ มารีนต้องเข้าร่วมการคัดเลือกตั้งแต่รอบพิเศษ รอบแรก รอบที่สอง รอบที่สาม มาจนถึงรอบที่สี่ ก่อนจะผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลเอฟเอคัพจริง ๆ ในรอบแรก โดยมารีนจับฉลากเจอกับโคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจากลีกทู ซึ่งพวกเขาก็สามารถเอาชนะไปได้ด้วยการดวลจุดโทษ ส่งมารีนลอยล่องเข้าไปยังรอบที่สอง เจอกับทีมฮาวานต์ แอนด์ วอเตอร์ลูวิลล์ จากลีกระดับ 6 ของประเทศ อีกครั้งที่ต้องเจอกับคู่แข่งที่เหนือกว่า แต่พวกเขาก็เอาชนะไปในช่วงนาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษ

มารีนมาจับได้แจ็กพอตในรอบที่สาม ด้วยการเปิดบ้านรับการมาเยือนของท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ทีมจากลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ ณ ตอนนั้น มารีนอยู่อันดับต่ำกว่าสเปอร์สถึง 151 อันดับ ซึ่งถือเป็นความแตกต่างของอันดับระหว่างสองทีมที่เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันเอฟเอคัพกว่า 140 ปี แน่นอนว่าไม่มีปาฏิหารย์ พวกเขาแพ้ไป 0-5 แต่เงินที่ได้รับจากแฟนบอลทั่วโลกที่ปลาบปลื้มในเรื่องราวของพวกเขา เป็นจำนวนมากถึง 300,000 ปอนด์ หรือกว่า 12 ล้านบาท ซึ่งทำให้มารีนสามารถไต่เต้ากลับมาสู่ฟุตบอลระดับ 7 ได้อีกครั้ง

สาระน่ารู้

รู้หรือไม่ว่า มารีน เอเอฟซี เป็นทีมที่มีผู้จัดการคุมทีมนานที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง นั่นก็คือ โรลี ฮาวเวิร์ด ซึ่งคุมทีมมารีน เอเอฟซี ตั้งแต่ปี 1972 จนถึงปี 2005 เป็นระยะเวลามากกว่า 33 ปี เป็นจำนวนเกมเกือบ 2,000 เกมเลยทีเดียว ทำให้ฮาวเวิร์ดได้รับสถิติโลก กินเนสส์ เวิร์ลด เรคคอร์ดมาครองได้เลยทีเดียว

มุมแสดงทรรศนะ