จุดเปลี่ยนปีศาจแดง! แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดรังเฉือน คริสตัล พาเลซ 1-0

“ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 ถือเป็นการเปิดตัวคุมทีมของ ราล์ฟ รังนิค นัดแรกด้วยการคว้าสามแต้มได้สำเร็จ พร้อมทำแต้มไล่จี้ท็อปโฟร์เหลือ 3 คะแนน เราลองไปดูประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในเกมนัดนี้กัน

1. รังนิค สร้างสถิติใหม่ พรีเมียร์ลีก

3 คะแนนในเกมวันนี้ ทำให้ ราล์ฟ รังนิค กลายเป็นกุนซือชาวเยอรมันรายแรกที่ประเดิมสนามในยุค พรีเมียร์ลีก ด้วยชัยชนะ เพราะก่อนหน้านี้ 5 รายทั้ง ฟิลิกซ์ มากัธ แยน ซีเวิร์ต แดเนียล ฟาร์เก้ หรือแม้แต่ โธมัส ทูเคิล และ เยอร์เก้น คล็อปป์ ล้วนแต่ไม่มีใครเจิมนัดแรกในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีด้วยการคว้า 3 แต้มเลยแม้แต่คนเดียว นั่นทำให้ รังนิค ทำสถิติเป็นผู้จัดการทีมอินทรีเหล็กคนแรกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีกอังกฤษที่เข้ามาแล้วคว้าชัยได้ตั้งแต่เกมแรกที่คุมทีมข้างสนาม

2. ความเปลี่ยนแปลงของ ปีศาจแดง

การมาของ ราล์ฟ รังนิค แม้อาจจะยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากนัก ณ เวลานี้ แต่ก็มีหลายอย่างในสไตล์การเล่นของ พลพรรคปีศาจแดง ที่ดูจะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนจากยุคของ โอเล กุนนาร์ โซลชา

ทั้งเกมบุกเดิมที่เน้นใช้ความสามารถเฉพาะตัวทักษะและความเร็วในการเข้าทำ มาเป็นการพยายามต่อบอลเซ็ตบอลจากแดนตัวเองมากขึ้น แต่วันนี้ก็ดูจะยังขาดความเฉียบขาดไป

ด้านเกมรับดูเหมือนว่ากองหลังกับกองกลางจะมีการทำงานร่วมกันมากขึ้นในการไล่บอลหรือประกบตัว ทำให้ลดช่องโหว่ในการเจาะเข้าทำลงไปได้พอสมควร

รวมถึงการจัดตัวที่วันนี้เรียกใช้ทั้ง ดาโลต์ และ เทลเลส พร้อม ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่แทบไม่เคยลงเล่นด้วยกันเลย ซึ่งก็ดูจะสร้างมิติในการเข้าทำได้หลากหลายไปอีกแบบ น่าสนใจว่าต่อจากนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง ซึ่งแฟน ๆ ปีศาจแดง ก็คงแอบลุ้นกันเล็ก ๆ ว่าอยากให้ทีมเป็นเหมือนกับ เชลซี หลังจากที่ ทูเคิล เข้ามาทำทีมชนิดที่ดีขึ้นแบบหน้ามือเป็นหลังมือไปเลยนั่นเอง

3. อายิว พลาดโอกาสทอง

ในช่วงครึ่งเวลาหลัง ต้องบอกว่า คริสตัล พาเลซ ดูจะรับมือกับเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ดีขึ้นพอสมควร แถมพวกเขายังสามารถเซ็ตเกมบุกจนหาจังหวะจบได้หลายครั้ง โดยเฉพาะ.. ก่อนที่ ปีศาจแดง จะได้ประตูชัยเพียง 1 นาที จอร์แดน อายิว ได้โอกาสทองชนิดที่ควรจะทำได้ดีกว่านี้ที่ มิตเชลล์ เปิเตะมุมมาที่เสาไกลให้ ทอมกิ้นส์ โหม่งชงกลับมา ก่อนที่ อายิว จะได้กดจ่อ ๆ ระยะไม่เกิน 5 หลาหลุดเสาออกไปแบบหน้าตาเฉย ซึ่งหากลูกนี้เป็นประตู รูปเกมรวมถึงผลการแข่งขันอาจจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงและมีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งกับแฟนบอล ปีศาจแดง แบบนี้ก็เป็นได้

4. ฟาน เดอ เบ็ค ยังคงต้องจำใจรับบท “ซุเปอร์ซับ” ต่อไป

เกมนี้เป็นอีกนัดที่ ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค ยังคงต้องนั่งรอโอกาสอยู่ข้างสนามและถูกส่งลงมาเล่นในช่วง 5 นาทีสุดท้าย ทั้งที่หลายคนมองว่า รังนิค อาจตัดสินใจชุบชีวิตดาวเตะรายนี้ให้กลับมาผงาดได้เหมือนสมัยที่ค้าแข้งกับ อาแจ็กซ์ อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนนายใหญ่คนแล้วคนเล่าก็ยังคงไม่ทำให้สถานการณ์ของเจ้าตัวดูดีขึ้นเพราะนับตั้งแต่การจากไปของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ กองกลางรายนี้ก็ยังคงไม่ได้รับโอกาสเหมือนที่หลายคนคาดการณ์ไว้ โดยตลอด 3 เกมที่ผ่านมาทั้งกับ เชลซี อาร์เซนอล และ พาเลซ ดอนนี ได้ลงเล่นรวมกันแค่ 7 นาทีเท่านั้น ! ไม่แน่หากรอบนี้เขายังคงไม่อยู่ในสายตา รังนิค อีก บางทีเดือนมกราคมนี้อาจจะเป็นทางแยกระหว่างเขากับ ปีศาจแดง แล้วก็ได้ใครจะรู้