ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ลิเวอร์พูล vs ปอร์โต้

---

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงเตรียมส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นำแผงหน้าล่าสกอร์เกมพบ ปอร์โต้ ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก) คืนวันอังคารที่ 9 เม.ย. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : SuperSport 5, เวลา : 02.00 น.

ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก)
วันอังคารที่ 9 เมษายน 2562
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)   –   ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
ถ่ายทอดสด : SuperSport 5, เวลา : 02.00 น.

สนาม : แอนฟิลด์
เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ลิเวอร์พูล พาทีมเข้ารอบนี้หลังฝ่าด่านบาเยิร์น มิวนิค ด้วยประตูรวม 3-1 ก่อนอัดเซาธ์แฮมป์ตันด้วยสกอร์เดียวกัน ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 5 นัดติด

สภาพทีมเกมนี้ที่แน่ๆ คล็อปป์จะไม่มี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายตัวหลักที่ติดโทษแบน หลังสะสมใบเหลืองครบโควตา คาดว่าน่าจะแก้ปัญหาด้วยการถอย เจมส์ มิลเนอร์ ลงไปยืนแทนมากกว่าการส่ง อัลเบร์โต้ โมเรโน่ แม้จะตรงตามตำแหน่งก็ตาม

ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ที่เป็นแค่สำรองในเกมล่าสุด ก็น่าจะกลับมาออกสตาร์ตตามปกติ

ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ ก็พร้อมช่วยทีมตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่

ด้าน แซร์โจ้ คอนไซเซา เทรนเนอร์เอฟซี ปอร์โต้ พาทีมเข้ารอบนี้หลังฝ่าด่านโรม่าด้วยประตูรวม 4-3 ก่อนชนะเบาวิสต้า 2-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะนัดที่ 4 ในรอบ 5 เกม

สภาพทีมเกมนี้ ที่แน่ๆ คอนไซเซาจะไม่มีทั้ง เปเป้ และ เอคตอร์ เอร์เรร่า ที่ติดโทษแบน หลังสะสมใบเหลืองครบโควตา

เมื่อไม่มีเปเป้ ก็ต้องปรับแนวรับโดยโยกเอา เอแดร์ มิลิเตา ว่าที่แข้งใหม่เรอัล มาดริด เล่นเซนเตอร์แบ็กคู่กับ เฟลิเป้ แล้วส่ง มักซี่ เปเรยร่า แข้งเก๋าอุรุกวัยลงแบ็กขวาตัวจริง ส่วน โอลีเบร์ ตอร์เรส จะเสียบตำแหน่งแทนที่กัปตันเอร์เรร่า

นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม แกนหลักประจำทีมรายอื่นๆ อย่าง อีเกร์ กาซียาส, อเล็กซ์ เตลเลส, โอตาวินโญ่, มุสซ่า มาเรก้า และ ติกินโญ่ ยังพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม 
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, เจมส์ มิลเนอร์ – จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
 เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

เอฟซี ปอร์โต้ (4-4-2) : อีเกร์ กาซียาส – มักซี่ เปเรยร่า, เอแดร์ มิลิเตา, เฟลิเป้, อเล็กซ์ เตลเลส – โอตาวินโญ่, โอลิเบร์ ตอร์เรส, ดานิโล่ เปเรยร่า, เฮซุส โกโรน่า – มุสซ่า มาเรก้า, ติกินโญ่
 เทรนเนอร์ : แซร์โจ้ คอนไซเซา

ผู้ตัดสิน : อันโตนิโอ มาเตว ลาออซ (สเปน)

เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
– คู่นี้เพิ่งเจอกันในรอบ 16 ทีมซีซั่นที่แล้ว โดย ลิเวอร์พูล บุกรัว 5-0 (ซาดิโอ มาเน่ กดแฮตทริก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ คนละเม็ด) ก่อนกลับบ้านมายันเสมอ 0-0 แล้วกรุยทางไปจนถึงนัดชิงที่กรุงเคียฟ
– ผลโนสกอร์ที่แอนฟิลด์ส่งให้ปอร์โต้ไม่ชนะตลอด 6 หนล่าสุดที่เยือนแดนผู้ดี โดยเสมอ 3 แพ้ 3 ส่วนสถิติรวม ชนะ 0 เสมอ 3 แพ้ 15 ยิงได้ 10 เสียถึง 48
– ส่วนสถิติรวมยามเจอทีมอิงลิชแบบน็อกเอาต์นั้น ปอร์โต้ชนะ 3 แพ้ 8 โดยเสียท่า 5 ครั้งซ้อน หรือนับตั้งแต่ยุคที่ โชเซ่ มูรินโญ่ พาทีมโค่น แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบ 16 ทีม 2003-04 ซึ่งผงาดแชมป์ในบั้นปลาย
– หลังจากโค่น บาเยิร์น มิวนิค สกอร์รวม 3-1 เท่ากับว่า ลิเวอร์พูล ได้ชัยตลอด 9 เกมยุโรปแบบเหย้า-เยือน (รวมรอบคัดเลือก) หรือนับตั้งแต่ตกรอบ 32 ทีมยูโรปา ลีก ด้วยน้ำมือ เบซิคตัส (1-0 เหย้า, 0-1 เยือนก่อนแพ้ดวลจุดโทษ)
– ลิเวอร์พูลไร้พ่ายเกมเหย้ายุโรป 20 นัดติดต่อกัน (ชนะ 14 เสมอ 6) นับจากโดน เรอัล มาดริดรัว 3-0 เมื่อเดือนตุลาคม 2014
– หงส์แดงไม่แพ้ใครมา 14 เกมซ้อนทุกรายการ (ชนะ 9 เสมอ 5) นับตั้งแต่แพ้วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2 ตกรอบ 3 เอฟเอ คัพ เมื่อเดือนมกราคม โดยได้เฮตลอด 5 นัดล่าสุด รวมชัยชนะถึงถิ่น เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 เมื่อวันศุกร์
– โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เพิ่งหยุดปืนฝืดส่องตาข่าย เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นสกอร์แรกนับจากวันที่ 9 กุมภาพันธ์
– อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล เริ่มมีผลงานเกมรับไม่ค่อยดีนัก จากที่เก็บคลีนชีต 5 เกมรวดมาทำนบแตกเกมชนะ เบิร์นลี่ย์ 4-2 เมื่อ 10 มีนาคม จากวันนั้นก็เสียประตูตลอด 5 แมตช์ที่ผ่านมา
– ซาดิโอ มาเน่ ยิงให้ ลิเวอร์พูล ได้ 7 จาก 7 เกมล่าสุดที่ลงสนาม
– มูสซ่า มาเรก้า หัวหอก ปอร์โต้ ใส่สกอร์ได้ 6 เกมติดต่อกันแล้วในรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก