เลวานกดเบิ้ล! บาเยิร์น รัว ไลป์ซิก 3-0 เถลิงแชมป์เดเอฟเบ สมัย 19

“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค คว้าดับเบิ้ลแชมป์ฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ หลังไล่บดเอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก ไปแบบสนุก 3-0 ในศึก เดเอฟเบ โพคาล รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา เกมนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวเก่งเหมาคนเดียวสองประตู พาทีมซิวแชมป์เดเอฟเบ โพคาล สมัยที่ 19 สำเร็จ และเป็นดับเบิ้ลแชมป์ในปีนี้ต่อจากบุนเดสลีกา ซึ่งเป็นสมัยที่12เข้าไปแล้ว ส่วน ไลป์ซิก ชวดคว้าแชมป์แรกในประวัติศาสตร์

สนาม : โอลิมเปีย สตาดิโอน

แอร์เบ ไลป์ซิก เพิ่งจะฉลองครบรอบ 10 ปี หลังจากเปลี่ยนชื่อตามกลุ่มทุนที่เข้ามาซื้อกิจกานับจากปี 2009 ไปเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เกมนี้นับเป็นแมตช์ประวัติศาสตร์ที่พวกเขาได้ตบเท้าเข้ามาชิงชนะเลิศ เดเอฟเบ โพคาล เป็นครั้งแรก

เกมนี้ ราล์ฟ รังนิก ไม่มีปัญหาจัดแนวรุกตัวเก่งทั้ง ยุสซุฟ โพลเซ่น และติโม แวร์เนอร์ ที่ยืนคู่หน้า และใช้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ และ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก คอยเชื่อมเกมตรงกลาง

ส่วนทางฝั่ง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค แชมป์รายการนี้ 18 สมัย ที่มี นิโก้ โควัช เทรนเนอร์ชาวโครเอเชียคุมบังเหียนล่าสุดเพิ่งจะป้องกันแชมป์บุนเดสลีกามาได้หมาดๆ และเกมนี้มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์รายการนี้ในรอบ 3 ปี ซึ่งหากพวกเขาทำได้จะเป็นการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ซีซั่นนี้

ซึ่งเกมนี้ทั้ง อาร์เยน ร็อบเบน และฟร้อง ริเบรี่ จะรับใช้สโมสรเป็นเกมสุดท้ายหลังอยู่กับทีมมาอย่างยาวนาน เช่นเดียวกับ ราฟินญ่า โดยเกมนี้แนวรุกก็เป็นไปตามคาด โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยืนหอกเป้า มี แซร์ช นาบรี้, โธมัส มุลเลอร์ และคิงส์เล่ย์โกมัน คอยสนับสนุน

ครึ่งแรกเปิดฉากมาได้แค่ 10 นาที ไลป์ซิก เกือบพังตาข่ายชิงขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะลูกเตะมุมทางด้านซ้าย มาร์เซล ฮัลสชเตนแบร์ก เปิดคอนเนอร์ด้วยเท้าซ้ายมาเสาแรกให้ ยุสซุฟ โพลเซ่น ขึ้นโขกเน้นๆ บอลไปติดมือ นอยเออร์ แล้วไปชนคานก่อนที่จังหวะต่อมาแนวรับ “เสือใต้” จะเคลียร์ออกไปหวุดหวิด

นาที 24 แฟนบาเยิร์นโล่งอกอีกรอบ หลัง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ แทงบอลทะลุให้ ติโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าไปจะเกี่ยวบอลได้อยู่แล้วแต่ โยชัว คิมมิช ที่ยืนเป็นตัวสุดท้ายยังพุ่งมาไวก่อนสไลด์บอลทิ้งออกไป

 

 

แต่กลายเป็น ไลป์ซิก ที่บุกกันเพลินโดน “เสือใต้” ลงโทษอย่างเด็ดขาด จากจังหวะสวนกลับบอลขึ้นมาทาง คิงส์เล่ย์ โกมัน ก่อนไหลให้ อลาบา หลุดถึงเส้นหลังแล้วครอสมากลางประตูให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ถอยหลังมาโขกย้อนไปเสาแรกหนีมือ เพเทอร์ กูลาสซี่ เข้าไป บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำ 1-0

นาที 42 บาเยิร์น พลาดได้เม็ดที่สองนำห่าง หลัง  คิงส์เล่ย์ โกมัน หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ มานูเอล นอยเออร์ ก่อนที่แตะหลบแล้วยิงเข้าปากประตูโล่งๆ บอลจะเข้าอยู่แล้วแต่ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ยังไวพุ่งมาโขกสกัดบอลออกไปได้ทัน

แอร์เบ ไลป์ซิก หลังเสียประตูก็โงหัวไม่ขึ้นเลย กลับกลายเป็น “เสือใต้” ที่ครองบอลและมีโอกาสเข้าทำได้อีก นาที 45 ซึ่งเป็นนาทีสุดท้าย “เสือใต้” พลาดได้ลูกที่สอง หลัง มุลเลอร์ ครอสเลียดไปเสาแรกให้ มัทธ์ ฮุมเมิ่ลส์ ยิงแฉลบไปติดเซฟของเพเทอร์ กูลาสซี่

จบครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำ แอร์เบ ไลป์ซิก 1-0

ครึ่งหลัง เริ่มมาได้แค่ 35 วินาที “เสือใต้” เกือบได้ประตูหนีห่าง หลัง คิงส์เล่ย์ โกมัน หักบอลมาให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า วิ่งมายัดด้วยขวาบอลพุ่งเหินคานแบบได้เสียว

 

 

ไลป์ซิก ตอบโต้บ้าง นาที 48 โกนาเต้ เซ็นเตอร์แบ็กแทงบอลทะลุให้ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก หลุดเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ นอยเออร์ ก่อนดาวเตะทีมชาติสวีเดนจะยิงไปติดเซฟของนอยเออร์ที่ช่วยทีมไว้อีกครั้ง

อีกนาทีต่อมา บาเยิร์น โดนเผาอีกแล้วคราวนี้ขึ้นทางกราบซ้ายของไลป์ซิก มาร์เซล ฮัลสชเตนแบร์ก ครอสมาเสาแรกให้ ติโม แวร์เนอร์ ยิงตามน้ำด้วยขวาเสาแรกทว่าบอลยังไม่แรงพอจะผ่านมือ นอยเออร์ ที่ล้มตัวรับไว้ได้

นาที 56 เสือใต้สวนกลับเร็วอีกครั้ง บอลหลุดมาถึง เลวานดอฟสกี้ แต่งเข้าเท้าขวาแต่จังหวะซัดยิงเบาและตรงตัว นอยเออร์ รับไว้ได้สบาย

ถัดมาแค่นาทีเดียว ไลป์ซิก ได้เถียงบ้าง ติโม แวร์เนอร์ สปีดบอลหลุดเข้าไปยิงเสาแรกบอลผ่าน นอยเออร์ ไปแล้วแต่ยังไปติดแนวรับบาเยิร์นที่ลงมาสกัดบนเส้นออกไปได้

นาที 73 บาเยิร์น มิวนิค ถอดเอา แซร์ช นาบรี้ ออกแล้วให้ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกประสบการณ์สูงลงไปลากเลื้อยแทน

 

 

นาที 78 “เสือใต้” หนีห่างไลป์ซิก 2-0 อีกเม็ด เป็นความยอดเยี่ยมของ คิงส์เล่ย์ โกมัน ที่ดูดบอลลงอย่างเหนือชั้นก่อนจะหักหลบหลุดเข้าไปตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งหนีมือ เพเทอร์ กูลาชซี่ เสียบสามเหลี่ยมแบบงดงาม

เท่านั้นยังไม่พอ นาที 85 บาเยิร์น มาบวกเพิ่มอีกหนึ่งเม็ดให้ทีมนำโด่ง 3-0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว โยชัว คิมมิช ผ่านบอลเข้ากลางไปให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หวดด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเด็ดขาด เป็นประตูที่สองในเกมนี้ของดาวยิงทีมชาติโปแลนด์

 

 

ช่วงเวลาทีเหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม บาเยิร์น มิวนิค คว่ำเอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก อย่างขาดลอย 3-0 คว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาล ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์สมัยที่ 19 ของสโมสร และดับเบิ้ลแชมป์ (บุนเดสลีกา+เดเอฟเบ) หนที่ 12

    รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

 แอร์เบ ไลป์ซิก (4-2-2-2) : เพเทอร์ กูลาชซี่ – ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, อิบราฮิม่า โกนาเต้ (อมาดู ไฮดาร่า น.70), วิลลี่ ออร์บาน (ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ น.70), มาร์เซล ฮัลสชเตนแบร์ก – ไทเลอร์ อดัม (คอนราด ไลเมอร์ น.65), เควิน คัมเพิ่ล – มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก – ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ – โยชัว คิมมิช, นิคลาส ซือเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา – ฆาบี มาร์ติเนซ (โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ น.65), ติอาโก้ อัลกันตาร่า – แซร์ช นาบรี้ (อาร์เยน ร็อบเบน น.73), โธมัส มุลเลอร์, คิงส์เล่ย์ โกมัน (ฟร้องค์ ริเบรี่ น.87) – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

ผู้ตัดสิน : โทเบียส ชตีแลร์

 

 

ทำเนียบแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล (ย้อนหลัง 10 ปี)

2018-19    บาเยิร์น มิวนิค    ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 3-0

2017-18     แฟร้งค์เฟิร์ต         ชนะ บาเยิร์น มิวนิค 3-1

2016-17     ดอร์ทมุนด์           ชนะ แฟร้งค์เฟิร์ต 2-1

2015-16     บาเยิร์น มิวนิค      ชนะจุดโทษ ดอร์ทมุนด์ 4-3 (หลังเสมอในเวลา 0-0)

2014-15     โวล์ฟสบวร์ก         ชนะ ดอร์ทมุนด์ 3-1

2013-14     บาเยิร์น มิวนิค       ชนะต่อเวลาฯ ดอร์ทมุนด์ 2-0 (หลังเสมอในเวลา 0-0)

2012-13     บาเยิร์น มิวนิค       ชนะ สตุ๊ดการ์ท 3-2

2011-12     ดอร์ทมุนด์            ชนะ บาเยิร์น มิวนิค 5-2

2010-11     ชาลเก้ 04            ชนะ ดุ๊ยส์บวร์ก 5-0

2009-10     บาเยิร์น มิวนิค       ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 4-0