อาลัยเทพCM! มักซิม ซิกัลโก้ เทพกองหน้า CM/FM สิ้นใจในวัย37

สำหรับแฟนฟุตบอลหลายคนแล้วนั้น อารมณ์ร่วมที่พวกเขามีให้เกมลูกหนังมันสูงมากๆ จนไม่ได้จบอยู่แค่การเชียร์ทีมที่ข้างสนามหรือผ่านหน้าจอโทรทัศน์ ซึ่งวิดีโอเกมเกี่ยวกับฟุตบอลมันสามารถตอบสนองความต้องการของคอบอลเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี โดยนอกจากจะเล่นได้บ่อยๆ แล้วนั้น บางครั้งมันยังสามารถดัดแปลงให้เรื่องที่ดูเป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นได้ด้วย อย่างเช่นการจัดทีมรวมดารา เป็นต้น

เรื่องดังกล่าวทำให้วิดีโอเกมฟุตบอลหลายอันได้รับความนิยมสูงมากๆ และถ้าพูดถึงเกมด้านจำลองการคุมทีมฟุตบอลแล้ว มันไม่ต้องสงสัยเลยว่า แชมเปี้ยนชิพ เมเนเจอร์ / ฟุตบอล เมเนเจอร์ คือซีรี่ส์ที่นอนมาเป็นอันดับ 1 ในเกมประเภทนี้ เพราะเกมซีรี่ส์ดังกล่าวยังออกภาคใหม่มาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะเคยมีดราม่าระหว่างผู้ผลิตอย่าง Sports Interactive กับ Eidos Interactive ที่เป็นผู้จัดจำหน่าย จนทำให้ Sports Interact แยกตัวจาก  แชมเปี้ยนชิพ เมเนเจอร์ มาทำเกม ฟุตบอล เมเนเจอร์ แต่คนก็ยังตามเล่นเกมของ Sports Interact อยู่เรื่อยๆ

ทั้งนี้ นอกจากจะได้คุมนักเตะชื่อดังแล้วนั้น เกมซีรี่ส์ แชมเปี้ยนชิพ เมเนเจอร์ / ฟุตบอล เมเนเจอร์ ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้มีโอกาสพัฒนาฝีเท้านักเตะเยาวชนให้ก้าวขึ้นไปเป็นแข้งระดับโลกด้วย ซึ่งหนึ่งในนักเตะที่โด่งดังมากที่สุดของซีรี่ส์นี้ก็คงจะหนีไม่พ้น มักซิม ซิกัลโก้ กองหน้าชาวเบลารุส แต่ล่าสุดเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นมาเพราะเขาเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมาด้วยวัยเพียงแค่ 37 ปี

ซิกัลโก้ เกิดในเมืองมิงส์ค ประเทศเบลารุส เขาลืมตาดูโลกในวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 1983 พร้อมกับ ยูริ ฝาแฝดของเขา ซึ่งทั้งคู่ยังชื่นชอบฟุตบอลจนหันมาเอาดีในการเป็นนักเตะอาชีพเหมือนกันด้วย จะต่างกันก็คือ ซิกัลโก้ ไปเป็นกองหน้า ส่วนฝาแฝดของเขาเป็นผู้รักษาประตู

ชื่อของ ซิกัลโก้ กับฝาแฝดของเขาถูกพูดถึงอย่างมากในกลุ่มสาวก แชมเปี้ยนชิพ เมเนเจอร์/ฟุตบอล เมเนเจอร์ หลังจากทั้งคู่มีค่าพลังเริ่มต้นที่ดี รวมถึงมีค่าพลังด้านศักยภาพที่จะส่งผลต่อการพัฒนาฝีเท้าในระดับที่สูงมากๆ ด้วย โดยเฉพาะภาค 2001-02 ที่ยังใช้ชื่อ แชมเปี้ยนชิพ เมเนเจอร์ โดยที่ ซิกัลโก้ จะมีค่าพลังดีกว่าจนถึงขนาดที่ถ้าเกิดคนเล่นสามารถจับเขาซ้อมได้ดีแล้วนั้น เขาสามารถกลายเป็นกองหน้าระดับโลกในเกมได้ง่ายๆ แถมการที่เขาอยู่กับ มิงส์ค ทำให้ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินก้อนโตเพื่อเป็นค่าตัวของเขาด้วย เรียกได้ว่าการซื้อเขามาปั้นต่อนั้นคุ้มค่ากว่าการไปดึงแข้งระดับโลกมาร่วมทัพเป็นไหนๆ

ด้วยเหตุนี้ ซิกัลโก้ เลยเป็นที่โด่งดังมากๆ ในกลุ่มคนที่เล่นเกมซีรี่ส์ ฟุตบอล เมเนเจอร์ จนหลายคนถึงขั้นยกให้เขาเป็นหนึ่งในตำนานของเกม เช่นเดียวกับ จูเลียส อกาโฮว่า อดีตดาวเตะชาวไนจีเรีย และมีการพูดกันว่าไม่ว่าจะเล่นเซฟไหน มันก็ต้องซื้อ ซิกัลโก้ ให้ได้

คนที่ทำให้ ซิกัลโก้ มีค่าพลังในเกมสูงขนาดนั้นก็คือ อันโตนิโอ ปูติลโล่ ซึ่งได้รับหน้าที่จากผู้พัฒนาให้กำหนดค่าพลังของนักเตะ เบลารุส โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2003 เขาเคยเปิดใจถึงการทำให้ ซิกัลโก้ มีค่าพลังสูงแบบนั้นเอาไว้ว่า “ตอนที่ผมกำหนดค่าพลังให้เขาผมยังอายุน้อยอยู่ ช่วงนั้นผมเชื่อมั่นว่าวงการฟุตบอลเบลารุสมีอนาคตที่สดใส ดังนั้นมันเลยไม่มีการจำกัดเรื่องเปอร์เซ็นต์ค่าพลังที่จะใส่กับนักเตะ”

“ผมชอบ ซิกัลโก้ มากๆ เขาเป็นนักเตะที่เร็ว, มีสัญชาตญาณการทำประตู และยังแสดงให้เห็นถึงคลาสที่ดีนิดๆ ด้วย เขามีคุณสมบัติทุกอย่างที่จะกลายเป็นนักเตะชั้นยอด แถมเขายังก้าวไปติดทีมชาติได้อีกต่างหาก ดังนั้นผมเลยกำหนดให้เขามีค่าพลังสูง แล้วจู่ๆ คนในอินเตอร์เน็ตก็ฮือฮากันสุดขีด คุณสามารถซื้อเขาได้ด้วยเงินแค่นิดเดียว และเขารับประกันว่าจะทำประตูให้คุณได้แทบทุกเกม”

น่าเศร้าที่ในชีวิตจริง ซิกัลโก้ ไม่ประสบความสำเร็จกับชีวิตการค้าแข้ง เขาเคยเล่นให้แค่ทีมในเบลารุส, คาซัคสถาน และ อาร์เมเนีย เท่านั้น โดยชื่อทีมเหล่านั้นต่างเป็นชื่อทีมที่แฟนบอลส่วนใหญ่ไม่คุ้นหู ไม่ว่าจะเป็น ดินาโม มิงค์ส, นาฟทาน โนโวโปโลทิสคฺ, ไคซาร์, บาแนนต์ส และ ซาวิต โมกิเลฟ ขณะที่เรื่องแชมป์ก็ได้แชมป์ลีก เบลารุส กับแชมป์ เบลารูเซียน คัพ อย่างละ 1 สมัย ส่วนกับทีมชาติเบลารุสเขาได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ไป 2 หน พร้อมกับทำได้ 1 ประตู ก่อนที่สุดท้ายจะแขวนสตั๊ดไปในตอนที่อายุเพียง 26 ปี จากการที่โดนอาการบาดเจ็บตามเล่นงานอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ซิกัลโก้ เคยเปิดใจว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองเป็นคนที่โด่งดังในเกมจำลองการคุมทีม และไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามีเกมแบบนั้นด้วย “ไม่เคยมีใครบอกให้ผมรู้ถึงเกมนี้เลย เพราะสมัยนั้นคนในประเทศผมไม่มีใครรู้เลยว่ามันมีเกมแบบนี้ด้วย ครั้งแรกที่ผมได้ยินว่าตัวเองเก่งมากๆ ในเกมนั้นคือตอนที่มีนักข่าวชาวรัสเซียมาบอกผม และผมตกใจสุดๆ เขาบอกว่าผมเป็นนักเตะที่ดังที่สุดของเกม”

“ทันทีที่ผมได้ยินแบบนั้นผมส่ายหัวด้วยความไม่เชื่อ ผมไม่รู้มาก่อนว่ามีเกมแบบนั้นด้วย ดังนั้นผมเลยหัวเราะลั่น แต่หลังจากนั้นผมมารู้ว่าที่จริงผมมีโอกาสที่จะทำเงินจากมันได้เยอะ แต่มันก็สายไปแล้ว”

หลังจากไปไม่รุ่งกับการเป็นนักเตะ ซิกัลโก้ หันไปเลี้ยงดูตัวเองกับครอบครัวด้วยการเป็นพนักงานก่อสร้าง ซึ่งแน่นอนว่าค่าแรงไม่สูงเท่าไหร่

   “ผมได้รับบาดเจ็บแบบรุนแรงตอนอายุ 23 ปี และเลิกเล่นฟุตบอลตอนอายุ 26 ปี ที่จริงผมมีเงินเก็บจากการเล่นฟุตบอลอยู่บ้าง แต่ผมจะเอาแต่พึ่งพาเงินก้อนนั้นไม่ได้ หลังจากนั้นผมเริ่มทำงานเป็นพนักงานก่อสร้าง ตอนแรกผมได้เงิน 5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อวัน ก่อนที่จะได้เพิ่มเป็นวันละ 20 เหรียญสหรัฐฯ แต่ผมก็เอือมกับการที่ร่างกายของตัวเองที่อ่อนล้าง่าย หลังกับขาของผมไม่สามารถทนสู้กับงานที่หนักหนาสาหัสได้ และผมมีปัญหาด้านสุขภาพอย่างมาก”

ซิกัลโก้ ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากเรื่อยมา จนสุดท้ายสิ้นใจเมื่อวันคริสต์มาสของปี 2020 โดย มิงค์ส เป็นฝ่ายแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ด้วยการบอกว่า “แชมเปี้ยนของ เบลารุส ผู้ที่เคยได้แชมป์ระดับประเทศกับ ดินาโม เราขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวกับเพื่อนๆ ของ มักซิม มา ณ ที่นี้ด้วย เราจะจดจำเขาไปตลอดกาล”

จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ ซิกัลโก้ แต่อย่างใด ขณะที่แฟนเกม ฟุตบอล เมเนเจอร์ หลายคนร่วมไว้อาลัยให้เขาทันทีที่รู้ข่าวนี้ อย่างเช่นการโพสต์ข้อความว่า “ขอให้ไปสู่สุคตินะ ตำนานของเกม แชมเปี้ยนชิพ เมเนเจอร์ #MaximTsigalko”, “เด็กยุค 90 จะไม่มีวันลืมคุณเลย ตำนาน ขอให้ไปสู่สุคติ #MaximTsigalko” และ “ขอให้ไปสู่สุคตินะ #MaximTsigalko นักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาลของเกม ฟุตบอล เมเนเจอร์ ทุกภาค” เป็นต้น

แม้ว่าเขาจะไม่ได้โด่งดังในชีวิตจริง แต่แค่นี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าชื่อของ ซิกัลโก้ จะเป็นที่จดจำไปตลอดกาล