ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2564 ลิเวอร์พูล – แมนฯ ยูไนเต็ด

ศึกแดงเดือดที่ทุกคนรอคอย…”ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงต้องลุ้นให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ฟิตทันลงช่วยทีม โดย มาร์คัส แรชฟอร์ด พร้อมลงขุดสกอร์ เกมบุกรัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ต้องชนะเท่านั้นถึงจะแซงขึ้นแถวตารางคะแนนยังคงมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นำล่าตาข่ายตามเดิม ลุ้นระทึกได้ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD 1 (เวลา : 23.30 น.)

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2564
ลิเวอร์พูล (3)   –   แมนฯ ยูไนเต็ด (1)
ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD 1 (เวลา : 23.30 น.)

 

สนาม : แอนฟิลด์

 ลิเวอร์พูล :

เจอร์เก้น คล็อปป์ พา “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าเข้าวินในเอฟเอ คัพ รอบ 3 ด้วยการบุกชนะ แอสตัน วิลล่า ชุดเด็กที่โดนโควิด-19 เล่นงานแข้งชุดใหญ่ไป 4-1 ทว่าในลีกก่อนหน้านั้น 3 เกมไม่ชนะเลย ฟอร์มล่าสุดออกไปแพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 ที่ เซนต์ แมร์รี่ส์

อันดับในลีกล่าสุดถูก เลสเตอร์ ซิตี้ แซงขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงแทนที่ทำให้หล่นมาอยู่ที่ 3

นี่เป็นการคุมทีมลงเล่นพรีเมียร์ลีกนัดที่ 200 ของ คล็อปป์ โดยทีมต้องลุ้นความฟิตของเซนเตอร์แบ็กอย่าง โฌเอล มาติ๊ป ซึ่งเดี้ยงที่กล้ามเนื้อขาก่อนหน้านี้

ขณะที่ 4 นักเตะอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ, ดีโอโก้ โชต้า และ นาบี เกอิต้า ยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้อย่างแน่นอน

แดนหลัง ฟาบิญโญ่, แอนดรู โรเบิร์ตสัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ โฌเอล มาติ๊ป คาดจะลงตัวจริงโดยมี รีส วิลเลี่ยมส์ เป็นอีกตัวเลือก

สำหรับแผงกองกลาง ติอาโก้ อัลคันทาร่่า ถูกฝากความหวัวไว้ค่อนข้างเยอะพร้อมประสาน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม หนุนสามหน้าดาวล่าสกอร์ นำโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่

 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พาทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีผลงานในพรีเมียร์ลีก 11 นัดหลังสุดที่ 9-2-0 ถ้าพวกเขาเข้าวินเกมนี้จะทิ้ง ลิเวอร์พูล 6 แต้มกันเลยทีเดียว

โดยฟอร์มในลีกล่าสุดบุกชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0 จาก ปอล ป็อกบา ก่อนหน้านั้นลงเล่น เอฟเอ คัพ รอบ 3 ใน โอลด์ แทร๊ฟฟอร์ด ทุบ วัตฟอร์ด ไป 1-0

แมนฯยูไนเต็ด จะต้องลุ้นความฟิตของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ เนมานย่า มาติช

คาดว่า เฟร็ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ไม่ได้ออกสตาร์ตเป็น 11 คนแรกวันชนะ เบิร์นลี่ย์ จะกลับมาเป็นตัวจริงในเกมนี้

ขณะที่ ปอล ป็อกบา ที่ฟอร์มดีต่อเนื่องเกมนี้จะได้ลงตัวจริงปั้นเกมพร้อมยิงร่วมกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ มาร์คัสแรชฟอร์ด ที่ลงมาเล่นหน้าต่ำ โดยมี อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยืนหน้าเป้าสังหาร พร้อมมี เอดิสัน คาวาานี่ เป็นตัวเลือกในตำแหน่งนี้เช่นกัน

 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามตัวจริง

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌเอล มาติ๊ป (รีส วิลเลี่ยมส์), ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – แอรอน วาน-บิสซาก้า, เอริก ไบยี่, แฮร์รี่ แม็คไกว์ร, ลุค ชอว์ – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด – ปอล ป็อกบา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (เอดิสัน คาวานี่)
ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์

 

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด
วัน/เดือน/ปี รายการ ผลการแข่งขัน
19/01/20 พรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูล2 – 0แมนฯ ยูไนเต็ด
20/10/19 พรีเมียร์ลีกแมนฯ ยูไนเต็ด1 – 1ลิเวอร์พูล
24/02/19 พรีเมียร์ลีกแมนฯ ยูไนเต็ด0 – 0ลิเวอร์พูล
16/12/18 พรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูล3 – 1แมนฯ ยูไนเต็ด
29/07/18 กระชับมิตร แมนฯ ยูไนเต็ด1 – 4ลิเวอร์พูล

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล
09/01/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-1 (เยือน) เอฟเอ คัพ
03/01/21 แพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
30/12/20 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
27/12/20 เสมอ เวสต์บรอมวิชฯ 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
19/12/20 ชนะ คริสตัล พาเลซ 7-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

แมนฯ ยูไนเต็ด
13/01/21 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
10/01/21 ชนะ วัตฟอร์ด 1-0 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
07/01/21 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-2 (เหย้า) ลีก คัพ
01/01/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
29/12/20 ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก