ชมเมืองไทยออกสื่อ! เจย์ โบธรอยด์ ให้สัมภาษณ์เส้นทางชีวิตฟุตบอลในเอเชีย
เจย์ โบธรอยด์ ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The-afc.com ถึงเส้นทางชีวิตฟุตบอลในเอเชียตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน โดยอดีตแข้งทีมชาติอังกฤษรายนี้เท้าความถึงอดีต ว่าไม่ค่อยรู้จักเอเชียมากนัก มีช่วงหนึ่งที่เล่นให้กับควีนส์พาร์ค เดินทางมาปรีซีซั่นที่มาเลเซีย รู้สึกว่าแฟนบอลในทวีปนี้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี นั่นคือการเดินทางเปิดมุมมองฟุตบอลเอเชียครั้งแรก หลังจากนั้น ปี 2014 ตัดสินใจมาเล่นในเมืองไทยกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จากการชักชวนของ สก็อต คูเปอร์ กุนซือของ “กิเลนผยอง”
อดีตแข้งทีมชาติอังกฤษพูดถึงการใช้ชีวิตเมืองไทยว่า ชื่นชอบคนไทยเพราะเป็นมิตรและอบอุ่นมาก การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯนั้นดีมากครอบครัวก็ชอบ มีอพาร์ทเมนต์ที่ยอดเยี่ยม อาหารไทยอร่อยมาก การเดินทางไปทั่วประเทศนอกเมืองหลวงได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง แฟนบอลในประเทศไทยนั้นยอดเยี่ยมมาก เจย์โบสนุกกับหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับชีวิตในประเทศไทย แต่นักฟุตบอลอาชีพอยากเล่นที่มาตรฐานที่สูงกว่าจึงตัดสินใจไปญี่ปุ่น
ตัวแทนของ เจย์ โบธรอยด์ พาเส้นชีวิตฟุตบอลอาชีพสู่ จูบิโล่ อิวาตะ เจลีก 2 หลังใช้เวลาเจรจา 2 ชม. วิถีชีวิตในญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ที่นี่มีรถไฟความเร็วสูงและสะดวกเพียบพร้อม เหมือนลอนดอนหรือนิวยอร์กมากแถมร้านอาหารอร่อย ๆ มากมาย ช่วงแรกๆอาจจะลำบากพอสมควรเพราะยากที่จะปรับตัวในญี่ปุ่นเพราะไม่รู้ภาษาดังนั้นคุณจึงไม่สามารถพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมและผู้จัดการทีม แต่พวกเขาจะให้ล่ามแปลให้ในทันทีเพียงแค่ต้องปรับการสื่อสารของตัวเองให้ชัดเจนว่าต้องการอะไร
มาตรฐานลีกญี่ปุ่นดีกว่าไทยแม้ว่าจะเป็นทีมระดับเจ 2 ความสุขของนักเตะอาชีพคือการลงเล่นกับผู้เล่นที่มีคุณภาพ มันเป็นความท้าทายที่ดี การเริ่มต้นใน เจ2 กลับเป็นสิ่งที่ดีเพราะกลายเป็นช่วงเวลาปรับตัวเมื่อก้าวสู่ เจ 1 ทุกฤดูกาลของเจย์โบ ที่จูบิโล่ประสบความสำเร็จมากๆ บางทีอาจจะมีปัญหาเล็กน้อยในทีมบ้างแต่ก็ต้องปรับตัวเพราะทุกคนต้องทำงานร่วมกัน การย้ายมาเล่นให้ซัปโปโร ทุกอย่างต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองแม้ว่าจะไปได้สวยกับจูบิโล่ ที่ซัปโปโร เจโบย์ พูดกับเพื่อนร่วมทีมว่าเราจะจบประมาณกลางตารางตอนนั้นทุกคนหัวเราะ แต่สุดท้ายมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงอีกทั้งยังมีลุ้นถึงกลุ่มบน อันดับ 4 ปี 2018 พลาดโอกาสไปเล่นถ้วยเอเชียครั้งแรกของสโมสร จริงๆปรารถนาจะไปเล่นเอซีแอล ทำให้กลับมาทบทวนหลายเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น
ในฮอกไกโด บ้านที่เจย์โบอาศัยอยู่ตัวเขาเองชอบซัปโปโรมากๆเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนแฟนบอลยอดเยี่ยมและสนามกีฬาที่วิเศษคล้ายกับเมืองแมนเชสเตอร์การใช้ชีวิตในญี่ปุ่นไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ทุกเรื่องแต่ทุกอย่างยอดเยี่ยม ซัปโปโรเป็นสโมสรครอบครัวที่แท้จริง วัฒนธรรมแฟนคลับในญี่ปุ่นนั้นยอดเยี่ยม ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างอังกฤษและญี่ปุ่นอีกเรื่องคือแฟนฟุตบอลญี่ปุ่นไปดูเกมเป็นเหมือนวันพักผ่อนของครอบครัว
ส่วนเรื่องของอนาคตแม้ว่าตอนนี้จะอายุใกล้ 40ปี แต่จะพยายามฝึกฝนและหลีกเลี่ยงอาการการบาดเจ็บ มีผู้เล่นมากมายในญี่ปุ่นที่อายุมากแถมยังมีประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องของการเป็นโค้ชมรอนาคตคิดว่ายังไม่อยากไปยุโรปอยากทำงานฟุตบอลที่ญี่ปุ่น โชคดีพอที่ได้มีโอกาสลงเล่นกับผู้จัดการที่ดีจำนวนมากและสิ่งที่ต้องการคือให้ความรู้นั้นกลับคืนมา หากเป็นผู้ฝึกสอนที่นี่จะผลักดันผู้เล่นมุ่งหน้าสู่ลีกที่ดีกว่าเพื่อยกระดับพวกเขา สำหรับฟุตบอลลีกของญี่ปุ่นอาจจะไม่ดีเท่าพรีเมียร์ลีกอังกฤษ,ลาลีกา สเปน ,บุนเดสลีกา เยอรมัน แต่เชื่อมั่นว่าดีกว่าลีกของเบลเยียม
สำหรับ “เจโบย์” หรือ เจย์ โบธรอยด์ ปัจจุบันอายุ 38 ปี ผ่านการติดทีมชาติเยาวชนอังกฤษตั้งแต่รุ่นอายุ 16ปี จนก้าวขึ้นไปติดทีมชุดใหญ่ อีกทั้งยังลงเล่นให้กับสโมสรชั้นนำหลายทีมทั้ง โคเวนทรี,แบล็คเบิร์น,วูล์ฟแฮมป์ตัน,ควีนส์พาร์ค,ชาร์ลตัน,เปรูจา,คาร์ดิฟฟ์,เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ช่วงปี 2014
โยกมาเล่นให้กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อนที่จะโยกไปเล่นฟุตบอลเจลีกของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2015 ปัจจุบัน “เจโบย์” สังกัดสโมสรคอนซาโดเล ซัปโปโร ซึ่งมี 2 แข้งไทยร่วมงานอยู่ด้วยคือรายของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
มุมแสดงทรรศนะ