ข่าวฟุตบอลข่าวฟุตบอลอื่นๆ

10 ข่าวร้อนกีฬาโลก ตลอดปี 2018

ufa14k ufasexygame2 ufajaz
แชร์ไปให้เพื่อน

ตลอดปี 2018 มีเหตุการณ์ และข่าวกีฬาเกิดขึ้นมากมาย และนี่คือ 10 ข่าวฮอตกีฬาโลก ที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของปี 2018

frabbb

1. ฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก สมัยที่ 2

“ขุนพลตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส ประกาศศักดาความเป็นหนึ่งในโลกลูกหนังอีกครั้ง ด้วยการคว่ำ “ตาหมากรุก” โครเอเชีย 4-2 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2018 ที่สนาม ลุชนิกี สเตเดี้ยม เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จากชัยชนะในเกมดังกล่าวทำให้พวกเขาสามารถคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์ได้สำเร็จ หลังก่อนหน้าเมื่อปี 1998 พวกเขาก้าวถึงตำแหน่งแชมป์สมัยแรกในบ้านของตัวเอง นอกจากนี้ทัวร์มาเมนต์ดังกล่าวยังเป็นการแจ้งเกิดของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าดาวรุ่งของทีมอีกด้วย

ronanana

2. โรนัลโด้ กับการย้ายทีมครั้งที่ 3 ในชีวิต

ขึ้นชื่อว่าระดับแข้งซุปตาร์โลก มีหรือที่การย้ายทีมจะธรรมดาเพราะการย้ายทีมหนนี้มีมูลค่าสูงถึง 105 ล้านยูโร (ประมาณ 4,200 ล้านบาท) โดยดาวเตะวัย 33 ปี เลือก ยูเวนตุส สโมสรแกร่งในเวทีกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เป็นสถานีค้าแข้งแห่งที่ 4 ในชีวิต ส่วนสาเหตุที่ย้ายออกจาก เรอัล มาดริด อดีตต้นสังกัดในลา ลีกา สเปน ที่เขาค้าแข้งนานถึง 9 ปี เป็นเพราะต้องการหาความท้าทายใหม่ๆ หลังสามารถคว้าถ้วยแชมป์ทุกรายการมาครองได้หมดแล้ว และด้วยกระแสความแรงเพียงแค่วันแรกของการประกาศคว้าตัว ยอดจำหน่ายเสื้อแข่งที่มีชื่อของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มียอดจำหน่ายทะลุกว่า 500,000 ตัว ภายในเวลาเพียงแค่วันเดียว

bobobobob

3. “โบลต์” จากอดีตลมกรดชื่อดัง สู่การค้าแข้งอาชีพ

ยูเซน โบลต์ ยอดนักวิ่งชาวจาเมกา บุรุษผู้เร็วที่สุดในโลก เจ้าของสถิติวิ่ง 100 เมตร ใช้เวลา 9.58 วินาที ซึ่งยังไม่มีใครสามารถทำลายลงได้ อย่างที่รู้กันดีว่า ลมกรดวัย 32 ปี ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจโดยเคยมีโอกาสร่วมฝึกซ้อมกับทีมดังอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาก่อนหน้านี้ แต่กับหนนี้มันกลายเป็นฝันที่เป็นจริง เมื่อเจ้าตัวได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ เซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส ทีมในเอลีก ออสเตรเลีย โดยทำคนเดียวสองประตูในเกมอุ่นเครื่องที่ถล่ม แม็คคาร์เธอร์ เซาธ์ เวสต์ ยูไนเต็ด 4-0 อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็สลายเมื่อเจ้าตัวตัดสินใจยกเลิกสัญญาเนื่องจากไม่พอใจค่าจ้างที่ได้รับหลังอยู่กับทีมเพียงแค่ 8 สัปดาห์

momomodol

4. มูไป…โอเล่มา

เรียกว่าสมใจสาวกปีศาจแดงเหลือเกิน หลังต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับแผนการเล่นที่ชวนอึดอัดเน้นรับเป็นหลักของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุกีส แม้ทีมจะมีแชมป์ติดมือ 2 รายการ (ยูโรปา ลีก และลีกคัพ) แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายของสโมสรที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต ฟางเส้นสุดท้ายของเฮียมูคือการบุกไปโดน “อริเบอร์หนึ่ง” ลิเวอร์พูล พับสนามบุกเกือบทั้งเกม ก่อนจบด้วยความปราชัย 1-3 และนั่นทำให้บอร์ดบริหารตัดสินใจปลดเจ้าตัวพ้นตำแหน่งพร้อมทั้งแต่งตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ขึ้นคุมทีมแทน และเพียงแค่เกมแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็กลับมารัวคู่แข่งถึง 5 ประตูได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยทำได้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2013

trustklopp

5. คล็อปป์ ความหวังใหม่ของสาวกเดอะค็อป

เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ยังคงทำทีมตามสไตล์เดิม บุกแหลกเหมือนเดิม แต่กับฤดูกาลนี้มีการขันเกมรับเพิ่มให้แน่นขึ้น ทำให้สถานการณ์ในลีกตอนนี้เรียกได้ว่า สาวกหงส์แดง แอบมีลุ้นลบฝันร้ายที่ห่างหายจากแชมป์ลีกสูงสุดไปนานถึง 28 ปี เพราะถึงตอนนี้ ลิเวอร์พูล ก้าวขึ้นเป็นทีมนำจ่าฝูง โดยทิ้งอันดับ 2 อย่าง แมนฯ ซิตี้ อยู่ 4 คะแนน ซึ่งจากสถิติที่ผ่านๆ มา สโมสรใดที่เป็นทีมนำในช่วงคริสต์มาสมักจะประสบความสำเร็จในบั้นปลาย โดยจากสถิติที่ผ่านมา 9 ครั้งหลังสุด มีถึง 8 ครั้งที่ทีมนำในวันคริสต์มาสสามารถก้าวถึงแชมป์ลีก ซึ่งครั้งเดียวที่พลาดแชมป์ก็คือสโมสรลิเวอร์พูลนั่นเอง ก็ต้องไปลุ้นกันต่อปีหน้าว่าพวกเขาจะลบฝันร้ายลงได้สำเร็จหรือไม่

tigerr

6. ไทเกอร์กับแชมป์ที่รอคอย

ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลก ชาวอเมริกัน กลับมาผงาดคว้าแชมป์ พีจีเอ ทัวร์ อีกครั้งได้สำเร็จหลังห่างหายจากตำแหน่งแชมป์ไปนานถึง 5 ปี โปรกอล์ฟวัย 42 ปี สามารถทำผลงานได้อย่างสุดยอดในรายการ “ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ” ทำให้เขาคืนบัลลังก์แชมป์อย่างยิ่งใหญ่ สำหรับชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้ทำให้ ไทเกอร์ คว้าแชมป์กอล์ฟพีจีเอ ทัวร์ รวมทั้งหมด 80 รายการ และน่าจะมีความหมายอย่างมากเพราะในช่วงที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่คว้าชัยชนะรายการที่ 79 ในศึกบริดจ์สโตน อินวิเตชั่นแนล เมื่อปี 2013 เขาพลาดลงแข่งขันหลายครั้งจากปัญหาบาดเจ็บหลังเรื้อรัง และปัญหาส่วนตัวมากมาย

aaaaaaa

7. โม-เม 2 พี่น้องไทย ดังกระฉ่อนโลก

“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟสาวขวัญใจชาวไทย กลับมาทวงตำแหน่งมือ 1 ของโลกคืนได้อีกครั้ง ซึ่งในปีนี้เธอสามารถคว้าแชมป์ 3 รายการ (คิงส์มิลล์ แชมเปี้ยนชิพ, ศึกเมเจอร์ ยูเอสวีเมนส์ โอเพ่น และ เลดี้ส์ สกอตติช โอเพ่น) ก่อนที่จะปิดฉากซีซั่นด้วยการ คว้าอีก 2 รางวัลใหญ่ คือ โบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 32 ล้านบาท จากคะแนนสะสม Race to CME Globe รวมทั้งรางวัลสกอร์เฉลี่ยยอดเยี่ยม คว้าถ้วย “แวร์ โทรฟี่” ไปครอง ขณะที่ “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล สามารถคว้าแชมป์กอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ ครั้งแรกในชีวิตได้สำเร็จ ด้วยการคว้าแชมป์รายการ ฮูเก้ล-เจทีบีซี แอลเอ โอเพ่น

jllll

8. สามแข้งไทยลุยเจลีก

หลังจากที่เมื่อกลางปี 2017 ที่ผ่านมา ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะทีมชาติไทย ได้เดินทางย้ายไปค้าแข้งกับ “เจ้านกฮูก” ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร สโมสรในศึกเจลีก ญี่ปุ่น มาในปีนี้อีกสองแข้งไทยที่ได้มีโอกาสเดินทางไปหาประสบการณ์ยังแดนปลาดิบก็คือ ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าตัวเก่งที่ย้ายไปร่วมทีม ซานเฟรชเซ่ ฮิโรชิม่า และ ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายจอมบุกที่ย้ายไปร่วมทีม วิสเซล โกเบ โดยทั้งคู่ย้ายจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปด้วยสัญญายืมตัว และแน่นอนนี่คือการเปิดตลาดสู่ประเทศไทยแบบเต็มตัวของเจลีก และมาลุ้นกันว่าในปีหน้าจะมีแข้งรายใดที่ย้ายไปเล่นในเจลีกกันอีก

lbj

9. “คิงเจมส์” เปลี่ยนสังกัด

ถือเป็นข่าวใหญ่ในวงการบาสเกตบอล NBA เมื่อ เลบรอน เจมส์ ฟอร์เวิร์ดตัวเก่งของ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ตัดสินใจอำลาทีม เลือกย้ายไปเล่นให้กับ ลอสแอนเจอลิส เลเกอร์ส ทีมดังจากสายตะวันตก โดยนักแม่นห่วงวัย 33 ปี เจ้าของนักกีฬายอดเยี่ยม 4 สมัย เลือกที่จะไม่อยู่กับต้นสังกัดต่อในปีสุดท้าย โดยใช้ออปชั่น-เอาท์ (ใช้สิทธิ์ไม่อยู่กับทีม) ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้เจ้าตัวรับค่าเหนื่อยสูงถึง 153.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4.9 พันล้านบาท ด้วยสัญญายาว 4 ปี ซึ่งถือเป็นการย้ายทีมครั้งที่ 3 ของเจ้าตัว

momomotototo

10. กระหึ่มโลก! ศึกโมโตจีพี ครั้งแรกของไทย คว้ารางวัลสนามดีสุดแห่งปี

“พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018” ศึกโมโตจีพี ครั้งแรกในประเทศไทย ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสนามแข่งขันที่ดีที่สุดประจำปี จากทั้งหมด 19 สนามแข่งขัน พร้อมรับรางวัล “โมโตจีพี กรังด์ปรีซ์ ออฟ เดอะ เยียร์” (MotoGP Grand Prix of the Year) ทั้งที่เพิ่งเป็นการจัดการแข่งขันในปีแรก แต่กลับเป็นสนามที่มีการขับเคี่ยวสูสีได้อย่างสนุก และมีผู้เข้าชมการแข่งขันมากที่สุดในฤดูกาลแข่งขันนี้ โดยมีผู้ชมกว่า 220,000 คนร่วมชมการแข่งขัน ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต, บุรีรัมย์ ตลอดระยะเวลา 3 วัน

มุมแสดงทรรศนะ